จังหวัดนครนายกอยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะกับการพักผ่อน และทำกิจกรรม Activity เช่น ล่องแก่ง ปั่นจักรยาน ขับรถ ATV เป็นต้น.
มีห้องประชุมขนาดตั้งแต่ 50 – 2,000 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร สามารถจัดประชุม กิจกรรมกลุ่ม งานเลี้ยง จัดเต็มแสงสีเสียง.
บริการห้องพักหลากหลายรูปแบบ เช่น โซนโรงแรม โซนรีสอร์ท โซนบ้านพัก บรรยากาศธรรมชาติ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก
บริการจัดกิจกรรมกลุ่ม ล่องแก่ง ATV เพ้นบอล ปั่นจักรยาน พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลทุกกิจกรรม.
รีสอร์ทสัมมนาครบวงจร นครนายก มีห้องประชุมหลายขนาด ตั้งแต่ 50 ท่าน จนถึงกว่า 2,000 ท่าน
จึงสามารถรองรับการสัมมนาขนาดใหญ่ จัดกิจกรรมกลุ่ม ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร พร้อมข้อเสนอดี ๆ.
มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และมีแหล่งน้ำทางธรรมชาติที่มีน้ำตลอดทั้งปี
พื้นที่รีสอร์ทตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำและธรรมชาติที่สวยงามของจังหวัดนครนายก
มีสนามหญ้าขนาดใหญ่ สามารถจัดงานเลี้ยงและกิจกรรมต่าง ๆ ได้
มีห้องอาหารบริการอาหารและเครื่องดื่ม ให้คุณได้ลองชิมอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดนครนายก
บริการไวไฟฟรี สำหรับทุกท่านที่เข้าพักและทำกิจกรรมที่รีสอร์ท
ให้บริการกิจกรรมมากมาย เช่น ปั่นจักรยาน ขับรถATV ล่องแก่ง เพ้นบอล เป็นต้น
กิจกรรม walk rally มักจะเป็นกิจกรรมที่ต้องถูกนำมาใช้ในการสัมมนาต่างๆมากมาย เพราะเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานพร้อมทั้งให้สาระไปควบคู่กัน ในแง่ของทีมเวิร์ค การทำงานเป็นทีม โดยกิจกรรมนั้นจะแบ่งกลุ่มออกเป็นกลุ่มต่างๆ แล้วจัดให้กลุ่มนั้นๆเข้าร่วมกิจกรรมในแต่ละฐานโดยแต่ละฐานก็มีภาระกิจแตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมจะเน้นถึงสาระในหัวข้อการอบรมนั้นๆตามที่ได้ตั้งโจทย์มา
กิจกรรม walk rally นั้นจะมุ่งเน้นให้แง่คิดในเรื่องของสาระการร่วมแรงร่วมใจกันมากกว่าผลแพ้ชนะ ซึ้งจัดได้ว่าเป็นหัวใจหลักของกิจกรรมการทำงานเป็นทีมนั่นเอง
ท่ามกลางการแข่งขันอย่างรุนแรงในปัจจุบัน “คน” ได้กลายเป็นปัจจัยชี้ขาดปัจจัยหนึ่งในการช่วงชิงความเหนือกว่าในทุก ๆ ด้านจากคู่แข่งขัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปัจจัยทางด้านการบริหารอย่างอื่น ๆ สามารถได้รับการพัฒนาทัดเทียมกันได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่การพัฒนา “คน” จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและกระบวนการอย่างต่อเนื่อง องค์กรใดที่ทุ่มเทอย่างจริงจังในการพัฒนาคน องค์กรนั้นย่อมกำลังสร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขันและสร้างความมั่นคงให้กับองค์กรในระยะยาว
กิจกรรม walk rally คือ กิจกรรมกลุ่มที่กระทำควบคู่ไปกับการแทรกสาระ เพื่อพัฒนาบุคคลากรและองค์กร ให้เหมาะสมกับบุคลากร วัฒนธรรมองค์กร และ สภาพเศรษฐกิจสังคม ในภาวะการแข่งขันอย่างสูงในเชิงธุรกิจ ในยุคปัจจุบัน โดยเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอาศัย ทักษะ และ ศักยภาพ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน การวางแผน หรือการสร้างผลงาน ซึ่งจะแทรกเข้าไปในกิจกรรม
กิจกรรม walk rally ถือว่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญ ซึ่งจะสร้างประโยชน์ต่อองค์กรทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ลักษณะของกิจกรรม walk rally แบ่งกว้างๆได้ 2 ลักษณะ ทั้งแบบเชิงสาระ และเชิงกึ่งสาระ เน้นสันทนาการเป็นหลัก กิจกรรมทั้งสองแบบนั้น จะให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำภาระกิจตามฐานต่างๆให้เป็นไปตามเป้าหมายของฐานนั้นๆ โดนการผสมผสานความ สนุกสนาน ตื่นเต้น ท้าทาย ความสามัคคี การวางแผนร่วมกัน และ สร้างมนุษยสัมพันธ์ ไหวพริบ และสมรรถภาพทางร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน การจัดกิจกรรม จำเป็นต้องมี ฐานกิจกรรม เพื่อสร้างทักษะและเพิ่มศักยภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน
Walk rally เป็นกิจกรรมที่มีมาตั้งแต่ยุค กรีกโบราณต่อมาจนถึง ยุคเฟื่อฟูของโรมัน โดยเมื่อหลังจากสงครามได้สงบลง พระราชาก็ทรงให้เหล่าแม่ทัพหรือ ทหารระดับสูงมาประลองหรือทำกิจกรรม เพื่อทดสอบปฏิภาณไหวพริบของนายทหารผู้นั้น ซึ่งการประลองก็คือ จะให้เดินทางไปยังจุดต่างๆ โดยใช้ม้าหริอเดินเท้าแล้วจะจะกำหนด(ซึ่งก็เป็นลักษณะในการจัดกิจกรรมวอล์คแรลลี่ในปัจจุบัน) และระหว่างรายทางนั้นก็ได้เจออุปสรรคมากมาย ที่ได้ทำขึ้น รวมไปถึงกลลวงที่ลึกลับซับซ้อนต่างๆ และถ้าหากผู้ใดทำได้ตามที่กำหนดในกิจกรรมนั้นๆ ก็จะได้รับปูนบำเหน็จและได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไป
กิจกรรม walk rally นี้ต่อมาประเทศญี่ปุ่นจึงมีแนวคิดมาปรับใช้วอล์คแรลลี่ในการทำงานขึ้นมาโดยนายชิเกรุ โคบายาชิ ซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัท โซนี่ เนื่องด้วยในขณะนั้นบริษัทประสบปัญหา เขาจึงศึกษาและตรวจสอบอย่างจริงจัง และเขาก็ได้พบว่า การบริหารงานของแต่ละหน่วยงานขาดการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง และจิตสำนึกที่ดีในการทำงานและองค์กร หรืออาจเรียกได้ว่าขาดการทำงานเป็นทีมนั่นเอง ซึ่งต่างกับทางด้านตะวันตกจะเน้นในเรื่องการทำงานเป็นทีม เขาจึงจึงจัดกิจกรรม walk rally ขึ้น โดยเน้นการเรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเองและการทำงานร่วมกัน โดยการจัดการรูปแบบต่างๆที่เหมาะสมบนพื้นฐานสภาพความเป็นจริงและปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาดบริษัทก็ฟื้นตัวและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง ต่อมากิจกรรม walk rally ในประเทศไทย เกิดขึ้นมาเพราะได้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น แนวคิดและวิธีการจัดการบริหารต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คณะที่ปรึกษาด้านเทคนิคชาวญี่ปุ่นของบริษัท ไทยบริดสโตน จำกัด ก็ได้นำเอากิจกรรม walk rally มาปรับใช้เพื่อให้เกิดการทำงานเป็นทีมเพิ่มมากขึ้น โดยเน้นที่กลุ่มระดับหัวหน้างานต้องเข้าร่วมกิจกรรมทุกคน และกลุ่มปฏิบัติการทุกคน ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีเกี่ยวกับกระบวนการทำงาน กลุ่มของเครือซิเมนต์ไทย ได้นำกิจกรรม walk rally มาใช้ในหน่วยงาน และได้แพร่ขยายไปสู่หน่วยงานในระดับชั้นนำอย่างรวดเร็วจนถึงปัจจุบัน
ขั้นตอนการทำกิจกรรม Walk Rally
1. การสำรวจพื้นที่จริงก่อนทำกิจกรรม เพื่อกำหนดสถานที่ทำกิจกรรมโดยอาศัยสภาพแวดล้อมจากธรรมชาติเป็นหลัก
2. กิจกรรมละลายพฤติกรรม (Ice Breaking) เพื่อสร้างบรรยากาศการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อความอบอุ่นด้วยมิตรภาพ ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนเปิดใจกว้างต่อการเรียนรู้ ลดการป้องกันตนเอง โดยใช้กิจกรรมและบทเพลง เป็นเครื่องมือในการละลายพฤติกรรม
3. ให้แนวคิดเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม สลับด้วยเกมส์การบริหาร เพื่อเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันเป็นทีม
4. แบ่งกลุ่มตามจำนวนของผู้เข้ารับการอบรม โดยแต่ละกลุ่มจะประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่ม เลขากลุ่ม และสมาชิกกลุ่ม
5. แจกแผนที่ Walk Rally เพื่อให้แต่ละกลุ่มทำความเข้าใจ และวางแผนการเดินทาง
6. เดินทางตามแผนที่ และทำกิจกรรมตามฐานต่าง ๆ ภายในเวลาที่กำหนดให้
7. คณะวิทยากรสรุปแนวคิดที่ได้ในแต่ละฐานกิจกรรม คิดคะแนน และมอบรางวัลให้แก่ทีมที่ชนะตามลำดับ
1. การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน
2. การสร้างทีมงาน และการทำงานเป็นทีม
3. การสร้างทัศนคติที่ดีต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน และองค์กร
4. การรู้จักปรับตัวในการทำงาน และการอยู่ร่วมกับ เพื่อนร่วมงานอย่างมีความสุข
5. สร้างความคิดในเชิงบวกกับการทำงานเป็นทีม
6. การเสียสละเพื่อส่วนรวม และไว้วางใจซึ่งกันและ กัน
7. พัฒนาการสื่อสาร สั่งงาน กระจายงาน มอบ หมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ
8.เสริมสร้างสุขภาพ สนุกสนาน และผ่อนคลาย
จุดประสงค์
ㆍเพื่อพัฒนาพฤติกรรมการทำงานร่วมกันให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ㆍเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานให้น่าอยู่และน่า ทำงาน
ㆍฝึกการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ให้กับทีมงานและ องค์กร
ㆍเพื่อสร้างจิตสำนึกในการยอมรับความแตกแต่ง และการปรับตัวเข้าหาเพื่อนร่วมงาน
ㆍสร้างทักษะการสื่อสารในการบริการให้มี ประสิทธิภาพ
จุดประสงค์
ㆍเพื่อเพิ่มทักษะการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
ㆍ ความมีสำนึกในการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
ㆍสร้างจิตสำนึกในการทำงานด้วยแรงบันดาลใจ
ㆍเพื่อปรับทัศนคติจากการทำงานคนเดียว ไปสู่การ ทำงานเป็นทีม
จุดประสงค์
ㆍเพื่อสร้างจิตสำนึกในการทำงานร่วมกันอย่างมี ความสุข
ㆍเพื่อสร้างจิตสำนึกในหน้าที่ และความรับผิดชอบ ของตัวเอง
ㆍเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและเป็นคนที่มีคุณภาพ ขององค์กร
ㆍเพื่อสร้างจิตสำนึกในการรักษาผลประโยชน์ของ องค์กร
จุดประสงค์
ㆍเพื่อสร้างความสนิทสนมและความรู้สึกเป็นหนึ่ง เดียว
ㆍ รู้จักปรับตัวในการทำงาน และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
ㆍรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงออกใน เชิงบวก
ㆍรู้จักแก้ปัญหาร่วมกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
จุดประสงค์
ㆍเพื่อสร้างความเข้าใจในการบริการ
ㆍเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเป็นผู้ให้บริการและ ผู้รับบริการ
ㆍเพื่อการแสดงออกซึ่งความเป็นมิตรต่อผู้รับบริการ
ㆍเพื่อการแสดงออกซึ่งความกระตือรือร้นที่จะให้ บริการอย่างมีคุณภาพ
กิจกรรมละลายพฤติกรรม คือการทำกิจกรรมขั้นต้น ด้วยสันทนการต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งมาจากต่างแผนก ต่างอายุ ต่างที่ ต่างวาระกัน เป็นการอุ่นเครื่องและสร้างบรรยากาศในการอยู่ร่วมกัน เปิดเผยตัวเองให้ผู้อื่นรู้จัก เสริมสร้างความคุ้นเคยกันเมื่อแรกพบ ก่อให้เกิดการกล้าแสดงออก เสริมสร้างความเป็นมิตร กิจกรรมละลายพฤติกรรมนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะ และแบ่งกลุ่มย่อย ตั้งชื่อกลุ่ม ทดสอบการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลังจากแบ่งกลุ่มด้วยกิจกรรมในห้องเพื่อจำลองแบบการร่วมงานกับเพื่อนร่วมงาน กิจกรรมละลายพฤติกรรม นับได้ว่าถือเป็นกิจกรรมที่มีอะไรมากกว่าการทำลายความเขินอายหรือความไม่คุ้นเคยต่อกันและกันเท่านั้น แต่หากยังเป็นวิธีการเรียนรู้กันและกัน รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม แลกเปลี่ยนทัศนคติ การมีเพื่อนมากขึ้น เป็นเกมที่ทำให้เกิดการเรียนรู้เพื่อนใหม่ในที่ทำงานนั่นเอง อีกอย่างเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกที่สนิทกันแล้ว ได้แยกออกจากกันบ้างเพื่อเปิดโอกาสให้คนใหม่ๆได้เข้ามาเป็นเพื่อนด้วยและให้ตนเองได้เข้าไปหาเพื่อนใหม่ด้วยเช่นกัน
การจัดกิจกรรมนี้คือกระบวนการที่เราอออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสเปิดใจ เปิดความคิด ทำลายกำแพงกั้นระหว่างพนักงาน และลดช่องว่างของกันและกัน สร้างความสุขของการอยู่ร่วมกัน ทำความรู้จักและเปิดเผยตัวเองออกมาให้สมาชิกแต่ละภาคส่วนได้รู้จักกันมากขึ้น ธรรมชาติบุคคลเมื่อมนุษย์เมื่อเราได้เข้ามาสู่สถานที่ใหม่หรือสังคมใหม่ หรือมักจะสร้างกำแพงของตัวเองเพื่อป้องกันตัวเองด้วยสาเหตุต่าง ๆ มากมายนานับการ องค์กรหรือ สภาพแวดล้อมที่ถูกเติมทัศคติทางลบอย่างต่อเนื่อง อันเป็นตัวก่อกำแพงเพื่อทำลายสัมพันธภาพของการอยู่ร่วมกัน หรือการทำงานร่วมกันนั้น บุคคลทั่วไปจึงมักที่จะเริ่มก่อกำแพงเพื่อป้องกันตัวเอง ดังนั้น กิจกรรมละลายพฤติกรรม จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการเปิดใจเพื่อให้พร้อมจะรับรู้และเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆนั่นเอง
องค์กรที่ควรทำกิจกรรม ice breaking
1. องค์กรที่ขาดกิจกรรมที่ส่งผลต่อความสัมพันธภาพที่ดีของบุคลากร
2. องค์กรที่มักประสบปัญหาการสร้างมิตรภาพระหว่างบุคคลากร
3. องค์กรที่มักประสบปัญหาในระบบการทำงานร่วมกัน และการอยู่ร่วมกัน
4. องค์กรที่มีสื่อสารกันที่ไม่เป็นระเบียบ และไม่มีประสิทธิภาพเต็มร้อย
5. องค์กรที่ต้องการลดช่องว่างระหว่างพนักงานอันเกี่ยวเนื่องมาจากตำแหน่ง อายุ แผนก
กิจกรรม ice breaking เป็นกิจกรรมง่ายเช่นการเล่นกิจกรรมต่างๆ อาจจะเป็นการเต้นเข้าจังหวะ หรือกิจกรรมอื่นใดซึ่งก่อให้เกิดเสียงหัวเราะและความกระปรี้กระเปร่า ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตื่นตัวและสดชื่อน กระตุ้นสมอง และนอกจากจะเป็นกิจกรรมเข้าจังหวะ ยังอาจจะเป็นการสอนทักษะอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ เช่นการสื่อสาร การร่วมมือ การแก้ปัญหา เป็นต้น
อย่างไรก็ตามแต่ การจัดกิจกรรมละลายพฤติกรรมในแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนในการดำเนินงานเนื่องจากว่าเราต้องแน่ใจในกิจกรรมว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถมีส่วนร่วมได้และมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับกิจกรรมนั้น
1. บุคคลจะแสดงความเป็นตัวเองเปิดเผยตัวเองเปิดใจมากขึ้นเพื่อเข้าสู่ระบบใหม่ หรือทำลายจุดยึดติดที่อาจเป็นอุปสรรคต่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
2. เกิดความเข้าใจธรรมชาติของบุคคลในกลุ่มงานเดียวกัน สามารถตอบสนองความเคลื่อนไหวในการทำงาน ให้กลุ่มสามารถเข้าถึงกันระหว่างบุคคล มีปฏิสัมพันธ์ที่ง่ายต่อการเข้าถึง ทำลายความขัดแย้งระหว่างบุคคล เห็นพฤติกรรมที่เป็นมุมมองใหม่ นอกจากภาพการทำงานปกติ กล้าแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มมากขึ้น
3. กลุ่มงานหรือทีมงานที่มีความเข้าใจ เกิดความเหนี่ยวแน่นในการองค์กรความเข้าใจนี้ย่อมส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในงาน ส่งผลให้เกิดความร่วมมือในระดับองค์กรยอมรับกติกา นำไปสู่การประสานงานที่มีประสิทธิภาพระหว่างพนักงานแผนกต่าง ๆของหน่วยงาน